Using Story Jokes for Real Communication ใช้เรื่องตลกสำหรับการติดต่อสื่อสารจริง
picture from:http://legit-humor.tumblr.com/
การเรียนการสอนในภาษาเดียว หรือในสภาพแวดล้อมที่ไม่พูดภาษาอังกฤษ คือตัวเวลาที่จะทำลายภาษาของคุณ คุณจะต้องให้นักเรียนใช้ภาษาสื่อสารกับคนอื่นๆอย่างแท้จริง
เรื่องราวตลกเป็นส่วนหนึ่งของมรดกทางวัฒนธรรมทางภาษา การเล่ามักจะเริ่มขึ้นด้วย " คุณเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ......" และสุดท้ายมันจะจบลงด้วยเสียงหัวเราะ เสียงครำ่ครวญ หรือแม้กระทั้งการขอโทษ บางครั้งเสียงตอบรับอาจจะเป็น "ผมไม่เข้าใจมัน" และสุดท้ายพวกเข้าก็จะพัฒนามุขตลกให้เป็นธรรมชาติมากชึ้น
การใช้มุขตลกในชั้นเรียน โดยให้นักเรียนฝึกใช้มัน จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนใช้ภาษาในการสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู่้วัฒนธรรมของภาษาได้อีกด้วย
Warming up แบบฝึกที่ดีของการสอนมุขตลกในห้องเรียน คือ เริ่มต้นด้วยการบอกเรื่องตลกที่แย่ๆ เพื่อจะให้นักเรียนรู้ว่าเรื่องตลกบางเรื่องก็ไม่ได้ตลกเสมอไป ต่อจากนั้นให้นักเรียนจำเรื่องตลก โดยมีซับแปล และให้นักเรียนนำเรื่องตลกนั้นไปเล่าให้เพื่อนฟัง โดยมีเทคนิคดั้งนี้
1. เริ่มต้นด้วยนำ้เสียงที่เคร่งขรึ้ม จริงจัง
2. แสดงท่าทางลังเลก่อนที่จะพูประโยคเด็ด
3. ปล่อยหมัดเด็ดแบบตรงไปตรงมา
บอกนักเรียนให้ฝึกปฎิบัติกับเพื่อนหลายๆ คน
เรื่องตลก
1. สามารถหาเรื่องตลกแบบสั้นได้จากนิตยาสาร ตำรา หรือแม้กระทั้งเพื่อนของคุณเอง
2. เขียนเรื่องราวตลกของนักเรียนเอง
3. เขียนเรื่ิงตลกลงบนกระดาษ
4. นำเรื่องตลกไปไปเล่าให้เพื่อนในห้องฟัง ถ้าหากมีเพื่อนมีเรื่องตลกที่ซำ้กัน มันจะดีมากเพราะจะเรียนรู้ปฎิกิริยาจริงเมื่อคนได้ฟังเรื่องตลกนั้นมาแล้ว
5. แจกจ่ายกระดาษที่เขียนเรื่องราวตลกของนักเรียนแต่ละคนให้เพื่อนในห้องดู แล้วให้เพื่อนช่วยกันดูว่ามันตลกหรือไม่อย่างไร แล้วนำมาปรับปรุง
6. ครูสั่งให้นักเรียนกระจายไปรอบๆห้อ โดยการจำลองสถานการณ์เป็น พับ บาร์ หรืองานสังคมต่างๆ
ให้นักเรียนเล่าเรื่องตลกของตนเอง โดยทำตามเทคนิคข้างต้น ให้พวกเขาเรียนรู้ปฎิกิยาจากเพื่อน การสื่อสารกับผู้อื่น
คุณค่าของการใช้เรื่องตลกมาสอนในห้องเรียนนั้นนองกากจะทำให้นักเรียนได้พัฒนาการใช้ภาษาแล้ว ยังทำให้สนุก
Reference: William DeFelice." Using Story Jokes for Real Communication" English Teaching Forum 2012: 43-44. print.
Reference: William DeFelice." Using Story Jokes for Real Communication" English Teaching Forum 2012: 43-44. print.
0 ความคิดเห็น:
Post a Comment